ลำดับสายของเทควันโด (ในประเทศไทย)
- เริ่ม สายขาว
- สายเหลือง1 (สายส้ม-ในบางยิม)
- สายเหลือง2
- สายเขียว1 (สีเขียวขี้ม้า-ในบางยิม)
- สายเขียว2
- สายฟ้า1 (ม่วง-ในบางยิม )
- สายฟ้า2 (น้ำเงิน-ในบางยิม)
- สายน้ำตาล 1
- สายน้ำตาล 2
- สายแดง 1
- สายแดง 2
- ในบางโรงเรียนมีการเรียนสายแดง 3 หรือ Pre-Black เพื่อเตรียมสำหรับการสอบในระดับสายดำ ขั้นที่ 1 หรือดั้งที่ 1
สำนักคุคกิวอนกำหนดให้มีสายดำทั้งสิ้น 10 ระดับ โดยเริ่มที่ระดับที่ 1 เป็นระดับแรกและใช้เงื่อนไขด้านระยะเวลา และอายุในการพิจารณาในการเลื่อนระดับขั้น (ดั้ง) แก้ไข: เทควันโด - เทแปลว่าเท้า, ควัน แปลว่ามือ ,โด แปลว่าสติปัญญา - ผู้ให้กำเนิดคำว่าเทควันโด - คือ นายพล ชอยฮองไฮ ซึ่ง ปัจจุบันรูปแบบของเทควันโดนี้ ไปอยู่ที่แคนาดา ตั้งสหพันธ์ ITTF เทควันโดเกาหลีใต้เป็นของ WTF เดิมเป็นหนึ่งเดียวกับ สำนักคุกกิวอน โดยปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็น KUKKIWON ACADEMY สถาบันการศึกษาเทควันโดโลก โดย ทำหน้าที่ ออกสายดำและตั้งกฎเกี่ยวกับการสอบสาย ประชาสัมพันธ์เทควันโด และ จัด ฮันมาดัง ส่วน WTF แยกออกไปทำหน้าที่ จัดการแข่งขัน วางนโยบายการแข่งขัน ฯลฯ โดยทั้งสองสถาบันก็ยังทำงานร่วมกันอยู่[1][2] - เทควันโดเกาหลี ไม่มีสายน้ำตาล - เทควันโดประกอบด้วย 4 ส่วนที่ต้องเรียนรู้ คือ 1.เคียวรูกิ (การต่อสู้เชิงแข่งขัน) 2.เคียกพ่า (การทดสอบจิตใจด้วยการทำลายสิ่งกีดขวาง) 3.พุมเซ(การทำท่าสมมติการต่อสู้ เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่าแพทเทิน ปัจจุบันมีการแข่งขันเป็นสากล) 4.โฮชินซูล (การป้องกันตัวอิสระในชีวิตจริง โดย การใช้มือเปล่าและอาวุธ ) โดยชมรม ส่วนมากในประเทศไทย จะมีอยู่ 2 อย่างคือ เคียวรูกิและพุมเซ - ดำแดง คือ สายดำ ที่อายุไม่ถึง 15 ปี (เพราะพลังทำลายและวุฒิภาวะยังไม่เหมาะสมทางสถาบันจึงไม่อาจให้คาดสายดำได้) - ผู้ได้รับอนุญาตให้เป็นตัวแทนคุกกิวอน สอบนักเรียนเปลี่ยนคุณวุฒิสายสี สอบนักเรียนเป็นสายดำและสอบนักเรียนเลื่อนดั้งต้องมีคุณวุฒิดั้ง 4-10 และมีรหัสอนุญาตจากคุกกิวอน - ผู้ได้รับสายสี เหลือง1-แดง2 (10ขั้น) เทควันโดเรียกว่า กุ้ป (Gup1-10) โดยไล่ตั้งแต่ Gup10 ขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึง Gup1 และถึงเปลี่ยนเป็นดั้ง 1 - ดั้ง 10 ประเทศไทยเรียก เหลือง1 เหลือง 2 จนถึง แดง 1 และ แดง 2 ส่วนดั้งเรียก ดำ1 ถึง ดำ 10
สายสีต่างๆ ในระดับต่างๆ
การได้คะแนน
•ผู้เข้าแข่งขันจะได้คะแนนก้อต่อเมื่อได้ใช้เทคนิค การเตะ ต่อย หรือถีบ กระทำต่อเป้าหมายที่กำหนดได้อย่างแม่นยำ และรุนแรง (โดยพิจารณาจากการที่คู่ต่อสู้ มีอาการเซ ผงะไปตามแรงกระทำ หรือล้ม จุก) อย่างไรก้อตามหากคู่ต่อสู้ล้มเนื่องจากการเข้ากระทำในส่วนที่เป็นสีขาว(ส่วนที่ไม่เป็นคะแนน) ก้ออาจจะอนุโลมให้ได้
•การให้คะแนนแต่ละครั้งให้นับครั้งละ 1 คะแนน เตะบริเวณหัว/ใบหน้าได้ 2 คะแนน (บางแมทการแข่งขันอาจะนับแค่1 คะแนน แล้วแต่จะตกลงกันในใบระเบียบการครับ)
•คะแนนรวมตลอดการแข่งขัน คือผลรวมของคะแนนทั้งสามยก
จะไม่มีการนับคะแนนก็ต่อเมื่อ •ผู้เข้าแข่งขันล้มลง โดยเจตนาทันทีหลังจากการเข้าทำคะแนนได้
•ผู้เข้าแข่งขันแสดงอาการกิริยาอันไม่สมควร (โห่ร้อง กระโดโลดเต้น เข้ากอด รัด หรือเหยียบซ้ำ ) หลังจากการเข้าทำคะแนนได้
•ผู้เข้าแข่งขันใช้เทคนิคการต่อสู้ที่นอกเหนือไปจากที่อนุญาติ เช่น (เข่า ศอก ศีรษะ เป็นต้น)
เตะลำตัวได้ 1 คะแนน
เตะหัวได้ 2 คะแนน
อุปกรณ์การแข่งขัน
•นักกีฬา ต้องใส่ สนับแขน ซ้าย-ขวา
•นักกีฬา ต้องใส่ สนับขา ซ้าย-ขวา
•นักกีฬา ต้องใส่ เกาะ แดง หรือ น้ำเงิน ตามสายแข่งขัน
•นักกีฬา ต้องใส่ เฮดการ์ด
•นักกีฬา ชาย ต้องใส่ กระจับ
•นักกีฬา ยุวชน อายุ 13-14 ปี เยาวชน อายุ 14-17 ปี ต้องใส่ ฟันยาง, ถุงมือสำหรับแข่งขัน
อุปกรณ์ในการฝึกซ้อมและแข่งขัน
เกราะใส่ในการแข่งขัน
ชุดใส่ในการซ้อมและแข่งขัน









ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น